เงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97(3) หรือเงินกองทุนในพื้นที่ประกาศ เป็นเงินได้ที่ กกพ. เรียกเก็บจาก ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า ตามมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในการประชุมเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2552 เพื่อนำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า โดยเรียกเก็บจาก
1. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า รายใหม่ หมายถึง ผู้รับใบอนุญาตฯ ที่ได้รับใบอนุญาตปลูกสร้างอาคารหรือการตั้งโรงงานตั้งแต่วันที่ระเบียบ กกพ. เรื่องหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการนำส่งเงินและการใช้จ่ายเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้ามีผลบังคับใช้เป็นต้นไป นำส่งเงินเข้ากองทุน ดังนี้
ช่วงระหว่างการก่อสร้าง (นับตั้งแต่วันที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามสัญญาว่าจ้างผู้รับเหมาเพื่อดำเนินการก่อสร้าง จนถึงวันที่เริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (Commercial Operation Date: COD) ให้จ่ายเงินเป็นรายปีตามกำลังการผลิตติดตั้งของโรงไฟฟ้า ในอัตรา 50,000 บาท/เมกะวัตต์/ปี
โดยในปีแรกให้จ่ายภายใน 5 วันทำการนับจากวันที่เริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้า สำหรับปีถัดปีถัดไปให้จ่ายภายใน 5 วันทำการแรกของปี
ช่วงระหว่างการผลิตไฟฟ้า (นับตั้งแต่วันที่เริ่ม COD เป็นต้นไป) ให้จ่ายเงินเข้ากองทุนเป็นรายเดือนตามปริมาณการผลิตพลังงานไฟฟ้าตามชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า โดยจำแนกตามชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าในอัตราดังนี้
อัตราการเก็บเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมติ กพช.
2. ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า รายปัจจุบัน หมายถึง ผู้รับใบอนุญาตฯ ที่ได้รับใบอนุญาตในการปลูกสร้างอาคารหรือการตั้งโรงงานก่อนวันที่ระเบียบ กกพ. ดังกล่าวมีผลบังคับใช้ กำหนดให้จ่ายเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเฉพาะช่วงระหว่างการผลิตไฟฟ้าเท่านั้น
3 ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการจำหน่ายไฟฟ้านำส่งเงินเข้ากองทุนพัฒนาไฟฟ้าเป็นรายเดือน โดยหักจากอัตราค่าบริการ ตามอัตราที่ กกพ. ประกาศกำหนด
ทั้งนี้ปริมาณเงินที่นำส่งเข้ากองทุน จะต้องสอดคล้องกับการดำเนินงานของผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้าที่ให้บริการแก่ผู้ใช้ไฟฟ้าที่ด้อยโอกาสหรือให้มีการให้บริการไฟฟ้าอย่างทั่วถึง หรือเพื่อส่งเสริมนโยบายในการกระจายความเจริญไปสู่ภูมิภาค รวมทั้ง ต้องสอดคล้องกับโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าและแผนการลงทุนในกิจการไฟฟ้าตามที่ กพช. กำหนด โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อผู้ใช้ไฟฟ้าที่จะต้องรับภาระในการที่ผู้รับอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้านำส่งเงินเข้ากองทุนด้วย
โดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) จะจัดสรรให้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศใช้จ่ายเพื่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบ จากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ตามมาตรา 97 (3) โดยแยกเป็นรายบัญชีตามโรงไฟฟ้า และให้ต่อท้ายด้วยชื่อของโรงไฟฟ้า หรือชื่อตำบล หรือชื่ออำเภอ หรือชื่อจังหวัดที่โรงไฟฟ้าตั้งอยู่
หลักการสำคัญในการบริหารเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้า
กกพ. ได้กำหนดนโยบายในการบริหารกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ โดยมีหลักการในการบริหารเงินกองทุน ดังนี้
1. มีการกระจายอำนาจการบริหารจัดการสู่ชุมชน เพื่อให้มีระบบการบริหารจัดการที่ดี มีธรรมาภิบาลโปร่งใส ตรวจสอบได้
2. ส่งเสริม สนับสนุนให้มีการจัดทำแผนพัฒนาชุมชน โดยชุมชนเพื่อชุมชน เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต และพัฒนาศักยภาพชุมชน ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เสริมสร้างระบบสวัสดิการของประชาชนและชุมชนอย่างมีคุณภาพ เพื่อให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
3. ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดความร่วมมือ การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างชุมชนภายในพื้นที่ประกาศ เพื่อให้เกิดการเชื่อมโยงและบูรณาการ การทำงานร่วมกันกับภาคีต่าง ๆ ได้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานราชการ องค์กรชุมชน สถานศึกษา ศาสนสถาน เป็นต้น
4. ส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดการเชื่อมโยงข้อมูล การเรียนรู้ การบริหารจัดการ การติดตามตรวจสอบ การประชาสัมพันธ์สู่สาธารณชน การพัฒนาระบบข้อมูลระหว่างกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศทุกระดับพื้นที่ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างยั่งยืน
5. มีการชดเชยเพื่อเยียวยาให้ผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า ทั้งด้านสุขภาพ อาชีพ และสิ่งแวดล้อม
6. ส่งเสริม สนับสนุน การฟื้นฟูธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การเฝ้าระวังทางสังคม สุขภาวะ สิ่งแวดล้อม
สำหรับเงินกองทุนในส่วนที่จัดสรรให้ใช้ในกิจการของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในแต่ละพื้นที่ประกาศที่โรงไฟฟ้าของผู้รับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้านั้น ๆ ตั้งอยู่นั้น ให้จัดสรรเป็น 2 ส่วน
ส่วนที่ 1 ไม่เกินร้อยละ 15 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการประจำปีสำหรับกองทุนพัฒนาไฟฟ้าในพื้นที่ประกาศ
ส่วนที่ 2 ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 เป็นเงินอุดหนุนการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้า โดยการเสนอโครงการชุมชนเพื่อประโยชน์ของประชาชนในพื้นที่ประกาศ
ตามระเบียบกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ได้กำหนดให้ สกพ. ได้กันเงินไว้ไม่เกินร้อยละ 5 เพื่อดำเนินการในกิจการ ดังนี้
1. สำรองไว้ใช้ในกรณีฉุกเฉิน เพื่อเยียวยาหรือบรรเทาความเสียหายในเบื้องต้นจากผลกระทบที่มีสาเหตุจากโรงไฟฟ้าตามที่ กกพ. เห็นสมควร
2. อุดหนุนให้กับการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่ได้รับการจัดสรรเงินจำนวนน้อยไม่เพียงพอต่อการพัฒนาหรือฟื้นฟูท้องถิ่น
ทั้งนี้ จำนวนเงินที่จะสนับสนุนให้กับแต่ละท้องถิ่นให้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมตามที่ กกพ. กำหนด
3. เพื่อการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า